เรื่องสุดประดับใจกับ "ค่ายลูกเสือ" by นรบดี

 

เรื่องสุดประดับใจกับ "ค่ายลูกเสือ"

        ผมจำไม่ได้แล้วว่าเข้าค่ายลูกเสือตอนปีไหน เอาเป็นว่าตอน ม.2 แล้วกันนะครับ เริ่มต้นแค่การเดินทางกับการตื่นเพื่อเตรียมของเนื่องจากลืมเตรียมของเมื่อคืน เลยต้องรีบตื่นเช้ามากเพื่อมาเตรียมของสำหรับการเข้าค่ายรอบนี้ เริ่มออกจากบ้านเวลา 5.00 น. สำหรับผมถือว่าเช้ามากในการออกจากบ้านมาเตรียมตัว ออกรถเพื่อไปร่วมกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ ในการเดินทางเริ่มต้นจากหน้าโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย เป้าหมายการเดินทางเข้าตัวจังหวัดสมุทรปราการ ขึ้นรถบัสให้พร้อม รถออก 7.00 น. ตรงผมกับเพื่อนเลือกที่นั่งกับเสร็จเรียบร้อย หลังจากการขึ้นรถไม่ได้มีอะไรพิเศษ มีแค่คุยจุกจิก,นอน สลับกันอยู่ 2 อย่าง หลังจากนั่งรถมา ไม่นานนัก ก็ถึงค่ายแล้ว.. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ลงจากรถบัสเข้าแถวหน้ากระดาน                     
                    เตรียมเข้าค่ายโดยเข้าร่วมพิธีเข้าค่ายท่ามกลางแดดที่ร้อนมาก และอากาศค่อนข้างอบอ้าว นักเรียน(หลังจากนี้ขอเรียกลูกเสือครับ) หลายคนเป็นลม หมดสติ เนื่องจากอากาศที่ร้อนจัด หลังจากนั้นก็ได้ทำกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ก่อนที่จะได้เข้าหอพักชาย ลูกเสือเปลี่ยนเสื้อเป็นเสื้อยืด กางเกงตามปกติแต่เนื่องจากอยู่ระหว่างกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ เลยจำเป็นจะต้องใส่ผ้าพันคอไว้ตลอด ออกมาทำกิจกรรมผูกเงื่อนกัน วิชานี้ผมบอกเลยว่าไม่ยาก ค่อนข้างง่ายแต่ผมทำไม่ได้ครับ เงื่อนบางอันค่อนข้างหนากลุ่มมีคนค่อนข้างเยอะแต่ไม่มีแค่ 4 ท่อนเลยทำให้บางคนไม่ได้รับความรู้การผูกเงื่อน เลยทำให้การเรียนรอบนี้ไม่ค่อยทั่วถึง หลังจากนั้นก็ทำกิจกรรมมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเย็นถึงเวลาอาบน้ำแล้ว ห้องน้ำลูกเสือไม่ไกลจากหอพักมาก เลยสามารถลงจากห้องมาแล้วอาบน้ำได้เลย แต่ปัญหาไม่ใช่ตรงนั้น.. ลูกเสือหลายสัญชาติ หลายดีเอ็นเอมารวมกันที่ห้องน้ำที่มีแค่สองห้อง เสียงแห่งสงครามอาบน้ำเริ่มขึ้น เนื่องจากปีที่ไปเป็นช่วงสิ้นปีอยู่ในฤดูหนาวทำให้น้ำที่สาดใส่กันนั้น เย็นและหนาวมากเสียงโหยหวนของลูกเสือทั้งหลายได้ดังลั่น ไปถึงเขตของเนตรนารีเลยทำให้ ลูกเสือวิสามัญที่เป็นรุ่นพี่ และเป็นพี่เลี้ยงในรอบนั้น มาตักเตือนในทันที และให้เวลาแค่ 5 นาทีในการอาบน้ำให้เสร็จ มิฉะนั้นจะโดนทำโทษเสีย ลูกเสือทุกคนในนั้นหงอยแน่นอนครับ หมดสนุกทำใจอาบน้ำให้เสร็จ แล้วกลับขึ้นห้องนอน เช้ารุ่งขึ้นถึงวันที่ 2 ของกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือวันนี้เป็นวันสำคัญเพราะคืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่เราจะได้นอนที่ค่ายแห่งนี้ตื่นเช้ามาแน่นอน ทำกิจกรรมนิดๆหน่อยมีตื่นสายกันบ้างและก็โดนทำโทษเล็กๆ น้อยๆ เข้าช่วง 10.00 น. เข้าแถวทำกิจกรรมตะลุยฐานมี 9 ฐานให้ลูกเสือ-เนตรนารีได้เข้ากัน แต่ละกลุ่ม-หมู่สามารถเข้าได้ 6-7 ฐานเท่านั้น เลยจำเป็นต้องแบ่งกันเป็นสองส่วน
                
                    ฐานที่ชอบมากที่สุดกระโดดหอสะเทินน้ำสะเทินบก โหนจากด้านบนลงไปด้านล่างที่เป็นบึง ที่ไม่ลึกแต่ได้ความกลัวตอนมองจากด้านบนมากครับ แต่ก็ไม่ว่าจะขัดขืนยังไง ไม่โดนผลักก็จะโดนคุณครูถีบลงไปอยู่ดี ฐานแรกเราได้เปียกเป็นที่เรียบร้อย ฐานที่สองที่ผมไม่คิดจะยุ่งกับมันตลอดชีวิต ฐานสะพานเชือก ฐานที่ผมกลัวมาก เนื่องจากเส้นที่เดินเป็นเชือกทางแคบแถมโดนเพื่อนแกล้งด้วย แถมคุณครูค่อนข้างเอ็นดู เลยเขย่าเชือกจากต้นทางด้วยครับ น้อยคนมากที่จะตกแต่ลูกเสือเนตรนารีที่ขึ้นไปก็สวมชูชีพทุกคน เรื่องความปลอดภัยจึงค่อนข้างมีมาตราฐานครับ จนถึงช่วงเที่ยงช่วงทานอาหารกลางวัน ที่มีระเบียบมากขนาดที่ว่าไม่มีเสียงช้อนสักครั้งก็เป็นไปได้ กับข้าวไม่ได้หรู มีแกงจืดที่มีแต่น้ำแต่รสชาติไม่ได้แย่ มื้อที่ดีที่สุดผมยกให้ข้าวต้มครับ เนื่องจากกินเป็นอันเดียว จนถึงช่วงเย็นถึงเวลาสนุก เนื่องจากมีกิจกรรมรอบกองไฟ ที่ตราตรึงใจใครหลายๆ คน ช่วงเวลา 19.00 น. - 22.00 น. เป็นช่วงเวลาสนุกที่สุดของค่ายลูกเสือในรอบนี้ แสง สี เสียง ความสนุก ได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ ได้เต้น ได้ฟังเพลง ได้ดูการแสดงของแต่ละหมู่ แต่ละห้อง ดีบ้างไม่ดีบ้างแต่ทุกคนก็ให้กำลังใจกันและกัน และถึงเวลาเข้านอนเข้าวันที่ 3 วันนั้นเป็นวันที่ผมหลับเต็มอิ่มที่สุด เนื่องจากเหนื่อยจากรอบกองไฟมากมาก ถึงรุ่งเช้าเวลาเดิม ทำกิจกรรม เข้าแถว ประชุมจนถึงช่วงเวลา 14.00 น. ถึงเวลาขึ้นรถเพื่อออกจากค่าย ความทรงจำ ความรู้สึกทุกๆ อย่างเราได้จดจำไว้หมดแล้ว ที่มีให้กับค่ายแห่งนี้แล้วก็ขอบคุณค่ายและวิทยากรหลายคนที่ให้ความสนุกกับพวกเราครับ.... จบแล้ววว ......


                                                         ภาพความสยองของสะพานเชือก

        ปล. คิดนานมากกับประสบการณ์เข้าค่ายผมเสริมปรุงแต่งบ้างเนื่องจากบางอย่างก็จำไม่ได้ แต่บางอย่างก็จำได้ดี เรื่องอาจจะไม่ตรงมากครับ
        -นรบดี /12 15. 

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม